รมต.น้ำระบุSMLยึดหลักการประชาธิปไตยเป็นแกนกลาง

แชร์กองทุนให้โลกรับรู้

รมต.น้ำ-จิราพร สินธุไพร ผู้กำกับขับเคลื่อนงานกองทุนทั้งระบบ พูดในงานคิกออฟ SML 2568 ที่เมืองทองธานี 21 เมษายน 2568 ตอนหนึ่งว่า โครงการ SML ถือกำเนิดขึ้นในปี 2547 ภายใต้รัฐบาลพรรคไทยรักไทย โดยการนำของท่านอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งพบปะพูดคุยรับฟังปัญหาพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ สิ่งที่ท่านพบคือ แต่ละหมู่บ้านจะมีปัญหา มีความต้องการแตกต่างกันไป ส่วนใหญ่เป็นปัญหาพื้นฐานที่สามารถแก้ไขได้ด้วยงบประมาณที่ไม่มาก แต่สิ่งที่พี่น้องประชาชนสะท้อนมาก็คือ ทุกคนอยากแก้ปัญหา แต่ไม่รู้จะหางบประมาณจากที่ไหน และจะเข้าถึงกระบวนการได้อย่างไร

หลังจากได้รับฟังปัญหาประชาชนมา รัฐบาลไทยรักไทยได้ออกแบบโครงการ SML เพื่อจัดสรรงบประมาณส่งตรงถึงหมู่บ้านและชุมชนนั้นๆ ตามขนาดหมู่บ้านชุมชน ให้พี่น้องประชาชนในหมู่บ้านชุมชนได้ระดมความคิดเห็นกัน ได้ร่วมกันวางแผน เสนอโครงการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ตนเอง ผ่านการทำประชาคมหมู่บ้านตามหลักการประชาธิปไตย โดยที่โครงการต่างๆไม่ได้ถูกกำหนดมาจากรัฐบาลกลาง แต่ถูกกำหนดโดยพี่น้องประชาชนในพื้นที่

ดังนั้น โครงการ SML และโครงการกองทุนหมู่บ้าน1ล้านบาทเป็นโครงการแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนอย่างตรงจุด เป็นการรดน้ำที่ราก โดยในปี 2555 รัฐบาลภายใต้การนำอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้นำโครงการ SML มาสานต่อเสริมความแข็งแกร่งทั้งด้านเพิ่มงบประมาณ ส่งเสริมกระบวนการมีส่วนร่วม โดยเฉพาะการทำประชาคม ทำให้เกิดการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ โปร่งใส

โครงการ SML ทำให้เห็นว่า เมื่อชุมชนได้โอกาสและเครื่องมือที่เหมาะสม ชุมชนสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ด้วยตนเอง และเป็นการเปลี่ยนแปลงในทิศทางพี่น้องประชาชนอยากให้เป็น ซึ่งจะเป็นการพัฒนาอย่างยั่งยืน

ปี2568 รัฐบาลภายใต้การนำของท่านนายกฯแพทองธาร ชินวัตร ได้ฟื้นโครงการ SML กลับมาอีกครั้ง ด้วยงบประมาณ 11,392 ล้าน เพื่อให้ชุมชนทั่วประเทศได้มีโอกาส คิด และทำสิ่งที่จำเป็นพื้นที่ตนเอง โดยยึกหลักความต้องการประชาชนเป็นที่ตั้ง เปิดให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมพัฒนาอย่างแท้จริง โดยรัฐบาลทำหน้าที่เป็นผู้สนับสนุน เราเชื่อว่า ไม่มีใครเข้าใจชุมชนได้ดีเท่ากับคนในชุมชน เราจึงกระจายอำนาจไปสู่มือประชาชน ให้ผู้ที่ใกล้ชิดปัญหาที่สุด รู้ปัญหาดีที่สุด

นี่คืออีกหนึ่งก้าวของการทำงานเชิงนโยบายที่ยึดหลักการประชาธิปไตยเป็นแกนกลาง สร้างการมีส่วนร่วมโดยทำให้นโยบายนี้มีชีวิตอยู่ร่วมกับพี่น้องประชาชนอย่างยั่งยืน เป็นการส่งตรงโอกาสถึงชุมชน โดยชุมชน เพื่อชุมชนอย่างแท้จริง