อนุ SML มี นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เป็นประธาน ดังนั้น อนุ SML จะประชุมหรือไม่ประชุมจึงขึ้นอยู่กับ นายประเสริฐ เป็นหลัก
ถามอีกว่า นายประเสริฐ รออะไร ทำไมถึงเลื่อนประชุม อนุ SML จากวันที่ 1 กันยายน 2568 ออกไป
คำตอบก็คือ ความเห็นที่แตกต่างกันว่า รัฐบาลรักษาการที่มีรองนายกฯเป็นผู้ทำงานแทนนายกฯ ยังทำงานทุกอย่างได้ตามปกติหรือไม่อย่างไร
เรื่องนี้ นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา บอกว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ รักษาการนายกฯ ทำแทนนายกฯได้ทุกอย่างยกเว้นยุบสภา (เป็นความเห็นของนายปกรณ์เท่านั้น) แต่ครม.ชุดปัจจุบันยังมีอำนาจเต็ม
ในส่วนประธานบอร์ดชาติ และประธานอนุSML ที่นายประเสริฐนั่งควบอยู่นั้น ยังมีอำนาจเต็มสามารถทำงานได้ เพราะรัฐบาลยังอยู่ รัฐบาลไม่ได้ลงนรกหรือขึ้นสวรรค์ไปไหน นายกฯขาดคุณสมบัติและรักษาการไม่ได้ก็จริง แต่ก็ตั้งรองนายกฯรักษาการทำงานแทนนายกฯแล้ว ฉะนั้น ทำงานทุกอย่างได้ตามปกติเต็มที่
สิ่งที่ต้องวิเคราะห์ไม่ใช่เรื่องปัญหาข้อกฎหมาย แต่เป็นปัญหาความอ่อนของรัฐบาลเพื่อไทยในการขับเคลื่อนงานกองทุนหมู่บ้าน ทำให้เกิดภาวะ “เสียของ” ทั้งที่มีอำนาจเต็มทำอะไรได้มากมาย แต่กลับแพ้ทุกหมากบนกระดานนี้ ฉะนั้น รัฐบาลเพื่อไทยอย่าไปโทษใคร ให้โทษตัวเองที่เดินหมากแพ้เด็กเมื่อวานซืน
โดยเฉพาะนายใหญ่ ทักษิณ ชินวัตร ต้องรับผลนี้ไปเต็มๆเช่นกัน
โครงการ SML หนึ่งในนโยบายหลักพรรคเพื่อไทย ทำให้กองทุนผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า ลองคิดดูเถิด แค่ประชุมอนุSML วันที่ 1 กันยายน 2568 ซึ่งเป็นความหวังชาวกองทุนทั่วประเทศ รัฐบาลเพื่อไทยยังไม่เข้าใจเลยว่า ไม่ว่าเป็นตายร้ายดี ก็ต้องทำให้เกิดการประชุมนี้ให้ได้ เพราะเกือบจะเป็นฟางเส้นสุดท้ายต่อความเชื่อมั่นของชาวบ้านนับแสนนับล้านคนแล้ว แต่รัฐบาลเพื่อไทยกลับยกเลิกประชุมในนาทีสุดท้ายหน้าตาเฉย
สาเหตุที่บอกว่า การประชุมอนุSMLนัดนี้สำคัญที่สุด ก็เพราะจะมีการนำเกณฑ์กรองเล่มเข้าพิจารณาเห็นชอบ หากเกณฑ์นี้ออกมา ก็จะเปิดประตูกรองเล่มโครงการกองทุนที่รอคอยกันอยู่นับหมื่นกองทุนให้หายอึดอัดคับข้องใจได้มากขึ้น
ข้อสำคัญ เกณฑ์กรองเล่มนี้ จะตอบคำถามได้ว่า ทำไมเล่มนั้นผ่าน ทำไมเล่มนี้ไม่ผ่าน เนื่องจากมีตัวชี้วัดชัดเจนตอบคำถามได้หมด
และยังบอกจุดที่ชัดเจนให้กองทุนแก้ไขเล่มส่งกลับมาอนุมัติรอบใหม่ได้อีกด้วย
กองทุนส่วนใหญ่ก็ต้องแค่นี้แหละ คือ ความชัดเจน
อนุมัติ ไม่อนุมัติ ไม่เป็นไร แต่ขอให้ชัดเจน
น่าเสียดาย รัฐบาลเพื่อไทยมองไม่เห็นสิ่งเหล่านี้ พลาดโอกาสทองที่จะทำให้ชาวบ้านพึงพอใจครั้งแล้วครั้งเล่า แพ้หมากกระดานระดับประเทศ ยัน หมากขับเคลื่อนงานกองทุนทั้งระบบให้ได้ผลลัพธ์เป็นที่พึงพอใจชาวบ้าน
