หากยุบสภาSMLยิ่งเดินหน้าเร็วขึ้น

แชร์กองทุนให้โลกรับรู้

เกมพรรคเพื่อไทย อ่านไม่ยาก ข่าวขู่เรื่องยุบสภา ไม่ใช่ไม่มีมูล หากเพื่อไทยไม่ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล หรือแพ้เกมพรรคภูมิใจไทย นายใหญ่เพื่อไทยต้องตัดสินใจยุบสภา เพื่อถือครองอำนาจเป็นรัฐบาลรักษาการ เพราะรู้ดีว่า หากภูมิใจไทยเป็นแกนจัดตั้งรัฐบาล รับรองเพื่อไทยโดนเช็กบิลแบบจัดหนักแน่

หลายคนไปมองว่า เพื่อไทยคะแนนนิยมตกต่ำไม่กล้ายุบสภา ไม่งั้นแพ้พรรคส้มแน่นอน ตอนนี้ ประเด็นไม่ได้อยู่ตรงนั้น ไม่ใช่สถานการณ์ปกติ แต่เพื่อไทยมีทางเลือกไม่มาก เพื่อไทยจะไม่ยุบสภาหากชนะเกมตั้งนายกฯ แต่หากรู้ตัวว่า แพ้เกมโหวตนายกฯ เพื่อไทยชิงยุบสภาพันเปอร์เซนต์ เพราะลงไปเลือกตั้ง ยังไงก็ยังมีอำนาจรักษาการรัฐบาล

วิเคราะห์ไปที่โครงการ SML ล่าสุด มีการมอบหมายงานให้ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมต.น้ำ จิราพร สินธุไพร กำกับดูแลงานกองทุนหมู่บ้านอีกครั้ง เพื่อกันเหนียว เนื่องจากนายกฯคนที่มอบหมายงานเดิมคือ แพทองธาร ชินวัตร ขาดคุณสมบัติแถมยังห้ามรักษาการอีกต่างหาก ดังนั้น ก็ควรมอบหมายงานให้รองนายกฯ และรมต.ประจำสำนักฯกันใหม่อีกรอบ เผื่อมีคนทักท้วงในอนาคต

ก่อนหน้านี้ การประชุมอนุ SML เพื่อพิจารณาเกณฑ์กรองเล่ม SML วันที่ 1 กันยายน 2568 ถูกเลื่อนออกไปกะทันหันก็เพราะต้องรอการมอบหมายงานจากรักษาการนายกฯก่อน

ลองคิดดูว่า ทำไมเพื่อไทยถึงใส่ใจเรื่องนี้มาก เหตุก็เพราะSMLเป็นหนึ่งในนโยบายพรรค นำไปคุยโม้หาเสียงเลือกตั้งได้ แม้จะทำงานช้า อนุมัตินาน แต่ก็ยังมีอำนาจรักษาการรัฐบาลสามารถอนุมัติได้จริง ฉะนั้น เพื่อไทยจึงไม่ยอมให้ตัวเองแพ้เกมตั้งนายกฯแล้วตกไปเป็นฝ่ายค้านไร้อำนาจรัฐบาลในมือลงไปสู้ศึกเลือกตั้งแน่นอน

เพื่อไทยต้องชิงยุบสภาก่อน

ดังนั้น เกมการเมืองจะวุ่นวายแค่ไหน ก็วุ่นกันไป แต่สำหรับเราชาวกองทุน การรอคอยการอนุมัติเล่มSML ไม่มีคำว่า สิ้นหวัง แม้จะยุบสภา เลือกตั้งใหม่ ขอแค่ รัฐบาลเพื่อไทยรักษาการ ร้อยหนึ่งเอาขนมกองเดียว นายใหญ่เพื่อไทยต้องสั่งให้เร่งอนุมัติเล่มSMLด่วนๆแน่นอน แม้รัฐมนตรีจะขอกรองเล่มเพื่อรักษาตัวรอดไม่โดนฝ่ายค้านลากเอาไปฉะในสภาฯ

แต่คราวนี้ กรองยังไง ก็ต้องเร็ว เพราะสถานการณ์บังคับ

เต่าขาหัก ยังไงก็ต้องกะเผลกเดินไปข้างหน้าให้เข้าตาชาวบ้านในช่วงเลือกตั้งให้ได้